ใน DotA นั้นการชิงจังหวะเพื่อความได้เปรียบนั้นสำคัญอย่างมากครับ โดยเฉพาะจังหวะเข้าปะทะ ถ้าทีมไหนต่อเกมรุกได้ลื่นไหลไม่มีสะดุด อีกฝ่ายก็จะเสียรูปเกมอย่างมาก แต่กลับกันถ้าทีมไหนเต็มไปด้วยสกิล Disable สำหรับสกัดหรือตัดเกม ก็จะมีโอกาสพลิกกลับเป็นฝ่ายที่คุมเกมบ้าง โดยเฉพาะเมื่อเผชิญหน้ากับทีมที่มีตัว Channeling โหดๆ ถ้าในทีมเราแทบไม่มีสกิล Disable เลยก็ยากที่จะหยุดเกมรุกของอีกฝ่ายได้ และเช่นกัน ถ้าในทีมเราเต็มไปด้วย Hero ที่มีความสามารถ Disable แล้วละก็ สกิล Channeling แรงๆ ของอีกฝ่ายก็แทบจะไม่เกิดผลเช่นกัน ฉบับนี้จึงจะมานำเสนอสกิลที่มีผล Disable ทั้งแบบเบสิคที่หลายๆ ท่านก็น่าจะรู้กันอยู่แล้ว และอีกหลายๆ สกิลที่สามารถหยุดยั้งการร่าย channeling ได้โดยที่หลายๆ คนอาจยังไม่ทราบ ให้ได้อ่านกันครับ
ตัวอย่างสกิล Channeling แสบๆ ที่ควรระวัง
Freezing Field ของ
Crystal Maiden
Black Hole ของ
Enigma
Epicenter ของ
Sand King
จริงๆ ก็ยังมีอีกหลายสกิลที่เป็นสกิลแบบ Channeling แต่จะขอยกอันที่เป็นปัญหาหนักในการปทะกันมาให้ชม ซึ่งทั้งสามสกิลนี้ถ้าฝ่ายเราไม่มีตัว Disable เลย ก็นับว่าเจอปัญหาหนักทีเดียว เพราะไม่มีอะไรจะหยุดยั้งการร่ายได้ (เช่น Epicenter) และเมื่อโดนแล้วจะทำอะไรไม่ได้เลยจนกว่าจะหมดผล นอกจากนี้ยังมีสกิล Chenneling อื่นๆ ที่เป็นปัญหา รวมทั้งการใช้ Town Portal ในการหลบหนีด้วย ซึ่งถ้าไม่มีอะไรสกัดก็ทำได้แค่ยืนดูอีกฝ่ายหนีไปเท่านั้น
![](https://lh3.googleusercontent.com/blogger_img_proxy/AEn0k_t1vh0OwZEhkMVgu5DN-7XZRp11Xs5arFxUwEewM0lJpHONslouxVdvtZKd6Jnw04FR5EMf5rkL3jGvHy3SMNvXfWVMqLOkhsSv5kh4f5EaXbWSFD-7hpu5OJL23nd7mZKImg=s0-d)
- เจอคู่คอมโบแบบนี้ ถ้าไม่มี Disable ก็เตรียมเก็บของกลับบ้านได้เลย
สกิล Disable ที่มีอยู่ในเกม
การจะสกัดอีกฝ่ายเพื่อตัดเกม หรือหยุดยั้งการร่ายสกิลอันตรายๆ นั้นก็ต้องใช้สกิล Disable ที่มีผลหยุดยั้งการร่ายได้ ซึ่งในเกมก็มีสกิล Disable อยู่หลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทก็มีดังนี้ครับ
สกิล Disable แบบ Stun
พวกนี้เป็นสกิลที่มีผลเด่นชัด คือทำให้เป้าหมายติด Stun อยู่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งจะหยุดทุกการกระทำของเป้าหมายลง รวมทั้งการร่ายเวทย์แบบ Channeling ด้วย อันนี้เป็นสกิลที่คนส่วนใหญ่ก็จะรู้ผลของมันกันดีอยู่แล้ว สกิลดังว่านั้นก็ได้แก่
Magic Missile ของ
Vengeful Spirit ,
Adaptive Strike ของ
Morphling ( ถ้ามี Str สูงกว่า Agi )
Storm Bolt ของ
Sven และ
Skeleton King
Fissue ของ
Earth Shaker
Light Strike Array ของ
Lina
Malefice ของ
Enigma
Fire Blast ของ
Ogre Magi
Avalanche ของ
Tiny
Primal Roar ของ
Beast Master
Elune’s Arrow ของ
Mirana
Hoof Stomp ของ
Centaur
Dragon Tail ของ
Dragon Knight
Split Earth ของ
Leshrac
Impale ของ
Lion และ
Nerubian Assassin
Reverse Polarity ของ
Magnus
Slithereen Crush ของ
Sladar
Chronosphere ของ
Faceless Void
Ravage ของ
Tide Hunter
Burrow Strike ของ
Sand King
Paralyzing Cask ของ
Witch Doctor
Chaos Bolt ของ
Chaos Knight
Reaper’s Scythe ของ
Necrolyte
Rain of Chaos ( เฉพาะตอนร่ายลงมา ) ของ
Warlock
สกิลที่ว่ามานี้ยกเฉพาะสกิลแบบใช้แล้วเกิดผลเลย ซึ่งจะมีผลในการ Stun ตั้งแต่ 1 วินาทีขึ้นไปทั้งสิ้น ซึ่งนอกจากจะใช้เพื่อหยุดยั้งการร่ายเวทย์แบบ Channeling แล้ว ยังใช้ตัดเกมและหยุดการรุกของตัวโหดๆ ของฝ่ายตรงข้ามได้อีกด้วย ซึ่งค่อนข้างมีประโยชน์ มีผลแน่นอน และความหลากหลายในการใช้มากกว่า Disable แบบอื่นๆ
สกิล Disable แบบอื่นๆ ที่ไม่ใช่ Stun
นอกจากการ Stun แล้วก็ยังมีสกิล Disable แบบอื่นๆ อีกที่ใช้หยุดยั้งอีกฝ่ายได้ ซึ่งมีทั้งที่มีผลดีกว่า Stun และมีผลด้อยกว่า สกิลเหล่านั้นก็ได้แก่
Frostbite ของ
Frost Maiden
Song of Siren ของ
Naga Siren
Ice Path ของ
Twin Head Dragon
Shackles และ
Voodoo ของ
Rhasta และ
Lion
Doom ของ
Lucifer
Nightmare และ
Fiend’ Grip ของ
Bane Elemental
Dismember ของ
Pudge
Charge of Darkness ของ
Spirit Breaker
Berserker’s Call ของ
Axe
Overgrowth ของ
Treant Protector
Pit of Malice ของ
Pit Lord
Astral Imprisonment ของ
Habringer
สกิลเหล่านี้จะมีผลในการยับยั้งเป้าหมายในรูปแบบต่างๆ กันไป ซึ่งจะสามารถหยุดยั้งการร่ายเวทย์ที่เป้าหมายกระทำอยู่ได้โดยทันที แต่อาจมีผลต่อเนื่องไม่เหมือนกัน เช่น Frostbite กับ Ice Path หยุดยั้งเป้าหมายที่กำลังร่ายเวทย์ได้ แต่เป้าหมายยังสามารถใช้เวทย์หลังจากโดนผลของสกิลได้ หรือ Song of Siren กับ Nightmare ที่ทำให้เป้าหมายหลับ แต่เราก็โจมตีเป้าหมายในภาวะนั้นไม่ได้เช่นกัน สกิล Disable ที่ดีที่สุดในหมวดนี้คือ Voodoo ซึ่งมีผลนาน และเป้าหมายจะแทบหมดสมรรถภาพในการต่อสู้โดยสิ้นเชิง
สกิล Silence
สกิลประเภท Silence นั้นไม่เชิงจะเป็น Disable โดยตรง เพราะเป้าหมายที่โดนจะยังเคลื่อนไหวและโจมตีได้ตามปกติ แต่จะร่ายเวทย์ไม่ได้เท่านั้น ซึ่งสกิลประเภท Silence จะมีผลหยุดยั้งการร่ายเวทย์ทันที และทำให้ร่ายเวทย์ไม่ได้ไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งจะมีผลมากกับพวก Nuker แต่ไม่ค่อยมีผลกับพวก Attacker ซึ่ง Hero ที่มีสกิล Silence ( หรือมีผลเหมือน Silence )ก็ได้แก่
Rikimaru
Silencer
Drow Ranger
Death Prophet
Night Stalker
Blood Seeker
สกิลแบบ Mini Stun
จะมีสกิลอยู่อีกกลุ่มหนึ่งที่มีผลข้างเคียงในการร่ายเป็น Mini Stun ซึ่งการที่สกิลนั้นๆ มีผลนี้อยู่ ทำให้สกิลจำพวกนี้สามารถหยุดการร่ายเวทย์ของเป้าหมายได้เช่นกัน สังเกตได้จากเมื่อใช้สกิลกับเป้าหมาย จะมีวงแหวนคล้ายๆ กับโดนภาวะ Stun เกิดขึ้นกับเป้าหมายชั่วระยะเวลาหนึ่ง (ราวๆ 0.1 วินาที แต่ก็พอมองเห็นได้) สกิลเหล่านี้แม้จะไม่สามารถหวังผลในการสกัดตัวรุก หรือตัดเกมบุกของอีกฝ่ายได้ แต่ก็สามารถใช้เพื่อหยุดการร่ายเวทย์อันตรายๆ ของฝ่ายตรงข้ามได้เช่นกัน สกิลที่มีผลแบบ Mini Stun ก็ได้แก่
Lightning Bolt ของ
Zeus
Smoke Screen ของ
Rikimaru
Omnislash ( เฉพาะ Hit แรก ) ของ
Juggernaut
Spirit Lance ของ
Phantom Lancer
Lucent Beam ของ
Lunar
Shuriken Toss ของ
Gondar
Mana Void ของ
Anti Mage
Chain Frost ( เฉพาะ Hit แรก ) ของ
Lich
Void ของ
Night Stalker
LVL? Death ของ
Lucifer
Spectral Dagger ของ
Spectre
![](https://lh3.googleusercontent.com/blogger_img_proxy/AEn0k_uXjjZM-iN2L-DZoI8VgaU2avmP3GkgGeWunlCjXqcGMpOK0ohQ3EgRCYRniYEG8IjWJLFc3EjYvE-hTpyhQaLKhpjeKnPaM1HLSYjm0t2EhSUMSodxGu8KNoMgZ7t7T4edKA=s0-d)
- สกิลอีกจำนวนหนึ่งก็มีผลข้างเคียงที่หยุดการ Channeling ได้เช่นกัน
สกิลอื่นๆ ที่หยุดการ Channeling ได้
นอกจากทั้งหมดที่กล่าวมา ยังมีอีกสกิลหนึ่งที่สามารถหยุดการ Channeling ได้ นั่นก็คือ
Vacuum ของ
Dark Seer นั่นเอง ซึ่งสกิลนี้จะย้ายตำแหน่งของฝ่ายตรงข้ามโดยรอบผลของสกิลมาไว้ยังจุดกึ่งกลางของ AoE ซึ่งฝ่ายตรงข้ามที่กำลังร่ายเวทย์อยู่ และโดนเปลี่ยนตำแหน่งก็จะหยุดการร่ายเวทย์ลงทันทีเช่นกัน
ตัวอย่างสกิล Channeling แสบๆ ที่ควรระวัง
จริงๆ ก็ยังมีอีกหลายสกิลที่เป็นสกิลแบบ Channeling แต่จะขอยกอันที่เป็นปัญหาหนักในการปทะกันมาให้ชม ซึ่งทั้งสามสกิลนี้ถ้าฝ่ายเราไม่มีตัว Disable เลย ก็นับว่าเจอปัญหาหนักทีเดียว เพราะไม่มีอะไรจะหยุดยั้งการร่ายได้ (เช่น Epicenter) และเมื่อโดนแล้วจะทำอะไรไม่ได้เลยจนกว่าจะหมดผล นอกจากนี้ยังมีสกิล Chenneling อื่นๆ ที่เป็นปัญหา รวมทั้งการใช้ Town Portal ในการหลบหนีด้วย ซึ่งถ้าไม่มีอะไรสกัดก็ทำได้แค่ยืนดูอีกฝ่ายหนีไปเท่านั้น
- เจอคู่คอมโบแบบนี้ ถ้าไม่มี Disable ก็เตรียมเก็บของกลับบ้านได้เลย
สกิล Disable ที่มีอยู่ในเกม
การจะสกัดอีกฝ่ายเพื่อตัดเกม หรือหยุดยั้งการร่ายสกิลอันตรายๆ นั้นก็ต้องใช้สกิล Disable ที่มีผลหยุดยั้งการร่ายได้ ซึ่งในเกมก็มีสกิล Disable อยู่หลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทก็มีดังนี้ครับ
สกิล Disable แบบ Stun
พวกนี้เป็นสกิลที่มีผลเด่นชัด คือทำให้เป้าหมายติด Stun อยู่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งจะหยุดทุกการกระทำของเป้าหมายลง รวมทั้งการร่ายเวทย์แบบ Channeling ด้วย อันนี้เป็นสกิลที่คนส่วนใหญ่ก็จะรู้ผลของมันกันดีอยู่แล้ว สกิลดังว่านั้นก็ได้แก่
สกิลที่ว่ามานี้ยกเฉพาะสกิลแบบใช้แล้วเกิดผลเลย ซึ่งจะมีผลในการ Stun ตั้งแต่ 1 วินาทีขึ้นไปทั้งสิ้น ซึ่งนอกจากจะใช้เพื่อหยุดยั้งการร่ายเวทย์แบบ Channeling แล้ว ยังใช้ตัดเกมและหยุดการรุกของตัวโหดๆ ของฝ่ายตรงข้ามได้อีกด้วย ซึ่งค่อนข้างมีประโยชน์ มีผลแน่นอน และความหลากหลายในการใช้มากกว่า Disable แบบอื่นๆ
สกิล Disable แบบอื่นๆ ที่ไม่ใช่ Stun
นอกจากการ Stun แล้วก็ยังมีสกิล Disable แบบอื่นๆ อีกที่ใช้หยุดยั้งอีกฝ่ายได้ ซึ่งมีทั้งที่มีผลดีกว่า Stun และมีผลด้อยกว่า สกิลเหล่านั้นก็ได้แก่
สกิลเหล่านี้จะมีผลในการยับยั้งเป้าหมายในรูปแบบต่างๆ กันไป ซึ่งจะสามารถหยุดยั้งการร่ายเวทย์ที่เป้าหมายกระทำอยู่ได้โดยทันที แต่อาจมีผลต่อเนื่องไม่เหมือนกัน เช่น Frostbite กับ Ice Path หยุดยั้งเป้าหมายที่กำลังร่ายเวทย์ได้ แต่เป้าหมายยังสามารถใช้เวทย์หลังจากโดนผลของสกิลได้ หรือ Song of Siren กับ Nightmare ที่ทำให้เป้าหมายหลับ แต่เราก็โจมตีเป้าหมายในภาวะนั้นไม่ได้เช่นกัน สกิล Disable ที่ดีที่สุดในหมวดนี้คือ Voodoo ซึ่งมีผลนาน และเป้าหมายจะแทบหมดสมรรถภาพในการต่อสู้โดยสิ้นเชิง
สกิล Silence
สกิลประเภท Silence นั้นไม่เชิงจะเป็น Disable โดยตรง เพราะเป้าหมายที่โดนจะยังเคลื่อนไหวและโจมตีได้ตามปกติ แต่จะร่ายเวทย์ไม่ได้เท่านั้น ซึ่งสกิลประเภท Silence จะมีผลหยุดยั้งการร่ายเวทย์ทันที และทำให้ร่ายเวทย์ไม่ได้ไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งจะมีผลมากกับพวก Nuker แต่ไม่ค่อยมีผลกับพวก Attacker ซึ่ง Hero ที่มีสกิล Silence ( หรือมีผลเหมือน Silence )ก็ได้แก่
สกิลแบบ Mini Stun
จะมีสกิลอยู่อีกกลุ่มหนึ่งที่มีผลข้างเคียงในการร่ายเป็น Mini Stun ซึ่งการที่สกิลนั้นๆ มีผลนี้อยู่ ทำให้สกิลจำพวกนี้สามารถหยุดการร่ายเวทย์ของเป้าหมายได้เช่นกัน สังเกตได้จากเมื่อใช้สกิลกับเป้าหมาย จะมีวงแหวนคล้ายๆ กับโดนภาวะ Stun เกิดขึ้นกับเป้าหมายชั่วระยะเวลาหนึ่ง (ราวๆ 0.1 วินาที แต่ก็พอมองเห็นได้) สกิลเหล่านี้แม้จะไม่สามารถหวังผลในการสกัดตัวรุก หรือตัดเกมบุกของอีกฝ่ายได้ แต่ก็สามารถใช้เพื่อหยุดการร่ายเวทย์อันตรายๆ ของฝ่ายตรงข้ามได้เช่นกัน สกิลที่มีผลแบบ Mini Stun ก็ได้แก่
- สกิลอีกจำนวนหนึ่งก็มีผลข้างเคียงที่หยุดการ Channeling ได้เช่นกัน
สกิลอื่นๆ ที่หยุดการ Channeling ได้
นอกจากทั้งหมดที่กล่าวมา ยังมีอีกสกิลหนึ่งที่สามารถหยุดการ Channeling ได้ นั่นก็คือ
DotA : เผยฮีโร่สุดล้ำ ยอดนิยมมาแรงใน V6.57b
Posted in ตัวละคร, ประวัติเกมส์ on ธันวาคม 25, 2010 by sogood2528
ที่มา
Posted in ประวัติเกมส์ on ธันวาคม 23, 2010 by sogood2528หลาย ๆ คนคงได้เคยได้ยิน เกมส์ๆ หนึ่งที่สร้างปรากฏการณ์ ที่สั่นสะเทือนวงการเกมส์
นั่นก็คือเกมส์ Warcraft 3 ของค่าย Blizzard นั่นเองแหล่ะครับ
อ้ะๆ มาถึงตรงนี้หลายคนคงเดาออก ว่าผมหมายถึงอะไร แน่นอนครับถ้าตัวเกมส์ดังมากขนาดนั้นก็ว่าไปครับ
แต่… หลังๆ มาความนิยมในเกมส์เกิดจาก ฉากของเกมส์เพียงฉากเดียว!!!
ในทางภาษาเกมส์ เรียกสิ่งนี้ว่า Custom Map หรือแผนที่ที่เกิดจากการสร้างเอง
ครับ ผมกำลังพูดถึงแมป (ขอเรียกว่า แมปนะ (map) ก็หมายถึงแผนที่/ฉากนั่นแหละนะ) ยอดนิยมที่มีชื่อและประวัติศาสตร์อันยาวนานคือ
DotA Allstars หรือมีชื่อเต็มว่า Defense of the Ancient All Stars
Idea ของแมปนี้คือ การต่อสู้ของ 2 ฝั่งคือ Scourge และ Sentinel ซึ่งก็จะว่าคล้ายๆ กับ Super Robot War ซีรีย์อันโด่งดังจากญี่ปุ่นนั่นเอง
ที่ เอาตัวละครจากหลากหลายแห่งมายำรวมกัน พร้อมสร้างความสนุกแนวใหม่ขึ้นมา
เนื้อเรื่องคงไม่พูดถึงมากครับ จุดประสงค์ก็คือการถล่มฝ่ายตรงข้ามให้พังย่อยยับไปข้างหนึ่งด้วยการทำลายสิ่งก่อสร้างอันเป็นแกนหลักของแต่ละฝ่าย
ยกตัวอย่างน่ะครับ .. The Tower , Barrack พวกนี้น้ะครับ
ฝั่ง Scourge จะมี Frozen Throne เป็นสิ่งก่อสร้างหลัก
ฝั่ง Sentinel จะมี World Tree เป็นสิ่งก่อสร้างหลัก ถ้าฝ่ายไหนสิ่งก่อสร้างหลักพังก่อน ก็แพ้ครับ เกมส์มีรูปแบบง่ายๆ
โดยตัวเกมส์แล้วจะสามารถเล่นได้หลายคนผ่าน ระบบ lan หรือที่นิยมที่สุดตอนนี้ ก็คงเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกจาก Thaicybergames น่ะครับ และก็อื่น ๆ อีกก็มี เช่น Garena
ประวัติเกมส์นี้ มียาวนานครับ พัฒนากันโดยหลายทีม จนที่สุดได้มีแมปอันเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้แมปนี้ยืนยงมาจนถึงทุกวันนี้คือ
DotA ที่สร้างโดยนักสร้างระดับตำนาน (ของแมปนี้) ที่มีชื่อฉายาว่า Guisoo (ขอเช็คอีกทีนะไม่แน่ใจ)
จนเป็นที่โด่งดังและได้พัฒนาต่อเนื่องจนเป็น DotA ซีรีย์ Allstars ซึ่งเป็นการรวบรวมนักรบจาก Warcraft 3 ในทุกระดับชนชั้น มาต่อสู้เพื่อฝ่ายของตัวเอง
ล่าสุดในปัจจุบันนี้ ก็เป็น MAP dotaallstar 6.64c นั่นเองครับ
แม้ว่าคุณจะเล่นคอมไม่เป็น เล่น warcraft 3 แบบปกติก็ไม่เป็น หรือทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง แต่ถ้าเล่น dota เก่งคุณเป็นดาราแล้วล่ะครับ เชื่อฟลุ๊กดิ ! ( ฟลุ๊กก็แถบจะเป็นดาราแล้ว ไม่เชื่อก็ติดต่อ หลังไมค์ได้น้ะ )
ส่วนคำศัพท์ต่าง ๆ ในเกมส์น่ะครับที่มีรากศัพท์จากคำฝรั่ง และเป็นคำศัพท์ที่แทบจะเทียบได้กับการสรรเสริญกันอย่างยิ่ง! ฮ่าฮ่าฮ่า ๆ !
ก็คงจะไปคำอะไรไปไม่ได้ นอกจาก ..
นั่นคือคำ ว่า noob ออกเสียงว่า นู้บ จากฝรั่งเดิมที่เค้าใช้เรียกผู้เล่นมือใหม่ หรือ newbie นั่นเอง
แต่ในเมืองไทยแห่งนี้ คำว่า noob จะหมายถึงความแย่ และความเลวร้ายที่ผู้เล่นคนหนึ่งๆ จะพึงมี
แสดงถึงความห่วยอย่างที่สุด ไม่ได้ 5 555.
แล้วก็จะมีการพัฒนาศัพท์ไปเรื่อย ๆ เหมือนกับแมปเลยล่ะครับ และที่มีความหมายใกล้กันคือคำว่า kak หรือ กาก ก็ย่อมาจาก กากเดนนั่นเองครับ
แน่นอนครับ เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วสิ่งที่ตามมา เด็กติดเกมส์กันงอมแงมยังไม่เท่าไหร่ครับ เมื่อเทียบกับการติด dota
dota นั้นถือเป็นเกียรติและศักดิ์ศรีลูกผู้ชายอย่างหนึ่ง ดังที่กล่าวไป การมาลบหลู่กันนั่นถือว่า ต้องเอาถึงตาย! ( แต่ไม่ได้ตายจริงนะ เป็นสำนวนเฉย ๆ )
ถ้า ไม่ใช่เพื่อนกันมาพูดว่า คุณนู้บจัง แน่นอนครับ เกมส์จะเปลี่ยนเป็นมวยไปในทันที
ดังภาษิตไทยว่า ” เกมส์แพ้ คนไม่แพ้(โว้ย) “ หลายฝ่ายก็พยายามจะแก้ไขจุดนี้ ด้วยการพยายามให้แนวทางการเล่น และให้มีน้ำใจนักกีฬา อย่างเช่น พิมพ์ GG ในการเล่นจบในแต่ล่ะเกมส์ เพื่อให้เกียรติ คนที่แพ้และชนะ ก็ย่อมาจาก ” Goodgame ” นั่นเองครับ ( ไม่ใช่ ( GreanGame น่ะ (เกรียนเกมส์) เด่วจะยุ่ง อิอิ )
แต่ก็แน่นอนครับ มันก็วนกลับไปสู่ปัญหาเดิมๆ ที่หลายคนได้ยิน ถ้าคนเล่นทำตามมารยาทและกติกาที่วางไว้… ก็ไม่ใช่ไทยสิครับ 5 555 5. ^^’
และศัพท์ต่าง ๆ ก็ยังมีอีกหลายอย่างน่ะครับ
ก็อย่างเช่นตัวย่อ ต่าง ๆ เช่น …
tw = tower = ทาวน์เวอร์ หรือป้อมนั่นแหล่ะครับ
r = right = ทางขวา
l = left = ทางซ้ายc = cen = ตรงกลาง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น