วันพุธที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2557

DotA-Allstars : จังหวะอำมหิต แทคติกสู่ชัยชนะ

ใน DotA นั้นการชิงจังหวะเพื่อความได้เปรียบนั้นสำคัญอย่างมากครับ โดยเฉพาะจังหวะเข้าปะทะ ถ้าทีมไหนต่อเกมรุกได้ลื่นไหลไม่มีสะดุด อีกฝ่ายก็จะเสียรูปเกมอย่างมาก แต่กลับกันถ้าทีมไหนเต็มไปด้วยสกิล Disable สำหรับสกัดหรือตัดเกม ก็จะมีโอกาสพลิกกลับเป็นฝ่ายที่คุมเกมบ้าง โดยเฉพาะเมื่อเผชิญหน้ากับทีมที่มีตัว Channeling โหดๆ ถ้าในทีมเราแทบไม่มีสกิล Disable เลยก็ยากที่จะหยุดเกมรุกของอีกฝ่ายได้ และเช่นกัน ถ้าในทีมเราเต็มไปด้วย Hero ที่มีความสามารถ Disable แล้วละก็ สกิล Channeling แรงๆ ของอีกฝ่ายก็แทบจะไม่เกิดผลเช่นกัน ฉบับนี้จึงจะมานำเสนอสกิลที่มีผล Disable ทั้งแบบเบสิคที่หลายๆ ท่านก็น่าจะรู้กันอยู่แล้ว และอีกหลายๆ สกิลที่สามารถหยุดยั้งการร่าย channeling ได้โดยที่หลายๆ คนอาจยังไม่ทราบ ให้ได้อ่านกันครับ
ตัวอย่างสกิล Channeling แสบๆ ที่ควรระวัง
 Freezing Field ของ  Crystal Maiden
 Black Hole ของ  Enigma
 Epicenter ของ  Sand King

      จริงๆ ก็ยังมีอีกหลายสกิลที่เป็นสกิลแบบ Channeling แต่จะขอยกอันที่เป็นปัญหาหนักในการปทะกันมาให้ชม ซึ่งทั้งสามสกิลนี้ถ้าฝ่ายเราไม่มีตัว Disable เลย ก็นับว่าเจอปัญหาหนักทีเดียว เพราะไม่มีอะไรจะหยุดยั้งการร่ายได้ (เช่น Epicenter) และเมื่อโดนแล้วจะทำอะไรไม่ได้เลยจนกว่าจะหมดผล นอกจากนี้ยังมีสกิล Chenneling อื่นๆ ที่เป็นปัญหา รวมทั้งการใช้ Town Portal ในการหลบหนีด้วย ซึ่งถ้าไม่มีอะไรสกัดก็ทำได้แค่ยืนดูอีกฝ่ายหนีไปเท่านั้น

- เจอคู่คอมโบแบบนี้ ถ้าไม่มี Disable ก็เตรียมเก็บของกลับบ้านได้เลย
สกิล Disable ที่มีอยู่ในเกม
      การจะสกัดอีกฝ่ายเพื่อตัดเกม หรือหยุดยั้งการร่ายสกิลอันตรายๆ นั้นก็ต้องใช้สกิล Disable ที่มีผลหยุดยั้งการร่ายได้ ซึ่งในเกมก็มีสกิล Disable อยู่หลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทก็มีดังนี้ครับ
สกิล Disable แบบ Stun
      พวกนี้เป็นสกิลที่มีผลเด่นชัด คือทำให้เป้าหมายติด Stun อยู่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งจะหยุดทุกการกระทำของเป้าหมายลง รวมทั้งการร่ายเวทย์แบบ Channeling ด้วย อันนี้เป็นสกิลที่คนส่วนใหญ่ก็จะรู้ผลของมันกันดีอยู่แล้ว สกิลดังว่านั้นก็ได้แก่
 Magic Missile ของ Vengeful Spirit ,
 Adaptive Strike ของ  Morphling ( ถ้ามี Str สูงกว่า Agi )
 Storm Bolt ของ  Sven และ Skeleton King
 Fissue ของ  Earth Shaker
 Light Strike Array ของ  Lina
 Malefice ของ  Enigma
 Fire Blast ของ  Ogre Magi
 Avalanche ของ  Tiny
 Primal Roar ของ  Beast Master
 Elune’s Arrow ของ  Mirana
 Hoof Stomp ของ  Centaur
 Dragon Tail ของ  Dragon Knight
 Split Earth ของ  Leshrac
 Impale ของ  Lion และ  Nerubian Assassin
 Reverse Polarity ของ  Magnus
 Slithereen Crush ของ  Sladar
 Chronosphere ของ  Faceless Void
 Ravage ของ  Tide Hunter
 Burrow Strike ของ  Sand King
 Paralyzing Cask ของ  Witch Doctor
 Chaos Bolt ของ  Chaos Knight
 Reaper’s Scythe ของ  Necrolyte
 Rain of Chaos ( เฉพาะตอนร่ายลงมา ) ของ  Warlock

      สกิลที่ว่ามานี้ยกเฉพาะสกิลแบบใช้แล้วเกิดผลเลย ซึ่งจะมีผลในการ Stun ตั้งแต่ 1 วินาทีขึ้นไปทั้งสิ้น ซึ่งนอกจากจะใช้เพื่อหยุดยั้งการร่ายเวทย์แบบ Channeling แล้ว ยังใช้ตัดเกมและหยุดการรุกของตัวโหดๆ ของฝ่ายตรงข้ามได้อีกด้วย ซึ่งค่อนข้างมีประโยชน์ มีผลแน่นอน และความหลากหลายในการใช้มากกว่า Disable แบบอื่นๆ
สกิล Disable แบบอื่นๆ ที่ไม่ใช่ Stun
      นอกจากการ Stun แล้วก็ยังมีสกิล Disable แบบอื่นๆ อีกที่ใช้หยุดยั้งอีกฝ่ายได้ ซึ่งมีทั้งที่มีผลดีกว่า Stun และมีผลด้อยกว่า สกิลเหล่านั้นก็ได้แก่
 Frostbite ของ  Frost Maiden
 Song of Siren ของ  Naga Siren
 Ice Path ของ  Twin Head Dragon
 Shackles และ  Voodoo ของ  Rhasta และ  Lion
 Doom ของ  Lucifer
 Nightmare และ  Fiend’ Grip ของ Bane Elemental
 Dismember ของ  Pudge
 Charge of Darkness ของ  Spirit Breaker
 Berserker’s Call ของ  Axe
 Overgrowth ของ  Treant Protector
 Pit of Malice ของ  Pit Lord
 Astral Imprisonment ของ  Habringer

      สกิลเหล่านี้จะมีผลในการยับยั้งเป้าหมายในรูปแบบต่างๆ กันไป ซึ่งจะสามารถหยุดยั้งการร่ายเวทย์ที่เป้าหมายกระทำอยู่ได้โดยทันที แต่อาจมีผลต่อเนื่องไม่เหมือนกัน เช่น Frostbite กับ Ice Path หยุดยั้งเป้าหมายที่กำลังร่ายเวทย์ได้ แต่เป้าหมายยังสามารถใช้เวทย์หลังจากโดนผลของสกิลได้ หรือ Song of Siren กับ Nightmare ที่ทำให้เป้าหมายหลับ แต่เราก็โจมตีเป้าหมายในภาวะนั้นไม่ได้เช่นกัน สกิล Disable ที่ดีที่สุดในหมวดนี้คือ Voodoo ซึ่งมีผลนาน และเป้าหมายจะแทบหมดสมรรถภาพในการต่อสู้โดยสิ้นเชิง
สกิล Silence
      สกิลประเภท Silence นั้นไม่เชิงจะเป็น Disable โดยตรง เพราะเป้าหมายที่โดนจะยังเคลื่อนไหวและโจมตีได้ตามปกติ แต่จะร่ายเวทย์ไม่ได้เท่านั้น ซึ่งสกิลประเภท Silence จะมีผลหยุดยั้งการร่ายเวทย์ทันที และทำให้ร่ายเวทย์ไม่ได้ไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งจะมีผลมากกับพวก Nuker แต่ไม่ค่อยมีผลกับพวก Attacker ซึ่ง Hero ที่มีสกิล Silence ( หรือมีผลเหมือน Silence )ก็ได้แก่
 Rikimaru
 Silencer
 Drow Ranger
 Death Prophet
 Night Stalker
 Blood Seeker

สกิลแบบ Mini Stun
      จะมีสกิลอยู่อีกกลุ่มหนึ่งที่มีผลข้างเคียงในการร่ายเป็น Mini Stun ซึ่งการที่สกิลนั้นๆ มีผลนี้อยู่ ทำให้สกิลจำพวกนี้สามารถหยุดการร่ายเวทย์ของเป้าหมายได้เช่นกัน สังเกตได้จากเมื่อใช้สกิลกับเป้าหมาย จะมีวงแหวนคล้ายๆ กับโดนภาวะ Stun เกิดขึ้นกับเป้าหมายชั่วระยะเวลาหนึ่ง (ราวๆ 0.1 วินาที แต่ก็พอมองเห็นได้) สกิลเหล่านี้แม้จะไม่สามารถหวังผลในการสกัดตัวรุก หรือตัดเกมบุกของอีกฝ่ายได้ แต่ก็สามารถใช้เพื่อหยุดการร่ายเวทย์อันตรายๆ ของฝ่ายตรงข้ามได้เช่นกัน สกิลที่มีผลแบบ Mini Stun ก็ได้แก่
 Lightning Bolt ของ  Zeus
 Smoke Screen ของ  Rikimaru
 Omnislash ( เฉพาะ Hit แรก ) ของ  Juggernaut
 Spirit Lance ของ  Phantom Lancer
 Lucent Beam ของ  Lunar
 Shuriken Toss ของ  Gondar
 Mana Void ของ  Anti Mage
 Chain Frost ( เฉพาะ Hit แรก ) ของ  Lich
 Void ของ  Night Stalker
 LVL? Death ของ  Lucifer
 Spectral Dagger ของ  Spectre


- สกิลอีกจำนวนหนึ่งก็มีผลข้างเคียงที่หยุดการ Channeling ได้เช่นกัน
สกิลอื่นๆ ที่หยุดการ Channeling ได้
      นอกจากทั้งหมดที่กล่าวมา ยังมีอีกสกิลหนึ่งที่สามารถหยุดการ Channeling ได้ นั่นก็คือ Vacuum ของ  Dark Seer นั่นเอง ซึ่งสกิลนี้จะย้ายตำแหน่งของฝ่ายตรงข้ามโดยรอบผลของสกิลมาไว้ยังจุดกึ่งกลางของ AoE ซึ่งฝ่ายตรงข้ามที่กำลังร่ายเวทย์อยู่ และโดนเปลี่ยนตำแหน่งก็จะหยุดการร่ายเวทย์ลงทันทีเช่นกัน

DotA Allstars Endless Story

Posted in ประวัติเกมส์ on ธันวาคม 25, 2010 by sogood2528

DotA : เผยฮีโร่สุดล้ำ ยอดนิยมมาแรงใน V6.57b

Posted in ตัวละครประวัติเกมส์ on ธันวาคม 25, 2010 by sogood2528

 
 
 

DotA : เผยฮีโร่สุดล้ำ ยอดนิยมมาแรงใน V 6.57b
  
  
      หลังจาก V6.57b ถูกปล่อยออกมาได้ไม่นาน ล่าสุดได้มีการประกาศเปลี่ยนแมพหลักที่ใช้ในการแข่งขันจาก V6.52e เป็น V6.57b ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จุดที่น่าสนใจก็คือใน V6.57b ถือได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากมาย ซึ่งทำให้เราได้เห็นการเลือกฮีโร่คอมโบใหม่ๆ ออกมา ในครั้งนี้เราได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับฮีโร่ม้ามืดที่กำลังได้รับความนิยมใน V6.57b มาให้ได้ชมกันครับฮีโร่มาแรงใน V6.57b
  Faerie Dragon
     คงไม่แปลกใจถ้าจะเห็นฮีโร่ตัวนี้อยู่ในอันดับต้นๆ ของการถูกเลือกใช้และการโดนแบนFarie Dragon คือฮีโร่ที่มีความพลิ้วทั้งในการโจมตี และการป้องกันและสามารถเข้าทำได้ทุกจังหวะ ด้วยสกิล Disable ต่างๆ ในตัวมัน และยังเป็นฮีโร่ที่เน้นการโจมตีกลุ่มด้วย อย่าง Waning Rift ทำให้ติด Silence และสร้างความเสียหายแบบกลุ่ม และไม้ตาย  Dream Coil ที่มีโอกาสทำให้เป้าหมายติด Stun ได้กลุ่มได้ และยังมีสกิลป้องกันการโจมตีทุกชนิดอย่าง  Phase Shift ด้วยนักแข่งหลายคนเลือกจะเสริมความพลิ้วของมันด้วย  Kelen’s Dagger นั้นทำให้การฆ่าฮีโร่บางๆ หาตัวจับยากขึ้นไปอีก

      Admiral Proudmoore
     ฮีโร่ใหม่ไฟแรงที่กำลังได้รับการกล่าวขึ้นความโกง และมักถูกเลือกแบนออกจากหลายๆ เกมในการแข่งขันต่างๆ ไม่แพ้  Faerie Dragon ถึงแม้หลังจากที่มันออกมาจะถูกปรับสมดุลไปบ้างแล้ว แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความโหดของมันลดลงเลย จุดเด่นมีทั้งการสนับสนุนทีมด้วยสกิลต่างๆ อย่าง  X Marks The Spot ที่สามารถลากคอเป้าหมายกลับมาฆ่าได้ หรือจะเป็น  Torrent ที่นอกจากจะสร้างความเสียหาย และ Slow แล้ว จังหวะที่ยกกลุ่มศัตรูลอยขึ้นไปประมาณ 2 วินาที ศัตรูจะสามารถถูกโจมตี และได้รับความเสียหายจากสกิลต่างๆ ได้อยู่ คือเป็นยอดสกิล Disable เลย และที่น่าจับตามองคือไม้ตาย  Ghost Ship ที่สามารถลดความเสียหายลงก่อนครึ่งหนึ่ง และเพิ่มค่าความสามารถต่างๆ ให้กับทีม ถือเป็นการสร้างความได้เปรียบมหาศาลเลยทีเดียว
   Spectre
     คือเป็นสุดท้ายฮีโร่ท้ายเกมที่น่ากลัวมากตัวหนึ่ง จุดเด่นของมันคือการเคลื่อนที่ไปหาเป้าหมายในระยะประชิดได้ทันทีจากสกิล  Haunt และยังใช้หาตำแหน่งศัตรูได้ตลอดเวลา เรียกได้ว่าสร้างความหวาดกลัวให้กับศัตรูได้ทุกตัวเสมอ ถึงแม้ล่าสุดสกิลนี้จะโดนปรับความสามารถลงมาแล้ว แต่ก็เหมือนความน่ากลัว และความนิยมของมันก็ไม่ได้ลดลงไปเลย
   Omniknight

     มันไม่ใช่ฮีโร่ฟันแรงหรือสกิลโหด แต่เป็นฮีโร่ที่สนับสนุนทีมได้ดีสุดๆ จนมักถูกเลือกแบน และถ้าไม่โดนแบนก็มักถูกเลือกมาเป็นตัวแรกบ่อยๆ นอกจาก Purification ฮีลฟื้นฟูค่า HP และสกิล Repel เพื่อป้องกันสกิลต่างๆ แล้ว ไม้เด็ดอยู่ที่ Degen Aura ลดความเร็วเคลื่อนที่แบบกลุ่ม เมื่อคอมโบกับ Guardian Angel ที่ทำให้ทีมเหมือนเป็นอมตะชั่วขณะ จึงเป็นเรื่องยากที่จะหาทางรับมือได้
   Warlock
     หน้าที่หลักที่มันมักได้รับจากทีมก็คือการเป็นฮีโร่พี่เลี้ยง โดยใช้สกิล Shadow Word คอยสนับสนุนฮีโร่เก่งท้ายเกมให้เก็บเงิน และฟาร์มได้ง่ายขึ้น และที่น่ากลัวที่สุดของ Warlock คือสกิลไม้ตาย Rain of Chaos กับการทำให้ศัตรูติด Stun กลุ่มเป็นวงกว้าง ใช้คอมโบสกิลโจมตีต่างๆ หรือเปิดโอกาสเข้าโจมตีได้แทบทุกจังหวะ และยังซัมมอน Infernal ออกมาไล่ถล่มป้อม หรือเป็นตัวชนให้กับทีมได้ด้วย
     ถ้าเปรียบเทียบกับฮีโร่ที่ได้รับความนิยมก่อนหน้านี้ ดูเหมือนว่าฮีโร่ที่ฮิตกันใน V6.52e จะตกอันดับไปหลายตัวเลยทีเดียว และนอกเหนือจากนี้ยังมีฮีโร่ม้ามืดที่เริ่มนำมาใช้แข่งขันอีกหลายตัว โดยแต่ละตัวมีจุดเด่นทีทำให้ถูกเลือกใช้ดังนี้

     1. Meepo การสร้างความเสียหายกลุ่ม และการหยุดศัตรูแบบกลุ่มได้นานหลายวิธี และต่อเนื่อง เป็นฮีโร่ที่เก่งแล้วหยุดยากมากๆ
     2. Lion ฮีโร่สนับสนุนที่สามารถเติม MP ให้ตัวเองได้เรื่อยๆ ทำให้อยู่กับเกมได้ตลอดเวลา และคอมโบสกิล Disable สุดโหด
     3. Keeper of The Light จากที่เน้นด้านสนับสนุน ดูเหมือนจะกลายเป็นฮีโร่กดดันศัตรูเต็มตัวที่ทำได้ตั้งแต่ต้นเกมไปซะแล้ว
     4. Zeus ความรุนแรงของสกิลต่างๆ ตั้งแต่ต้นเกม ยังคงอยู่ในความทรงจำ และทำให้นักแข่งหลายคนติดใจในความโหดไม่ลดลงเลย
     5. Lycanthrope ซัมมอนโดนปรับไปปรับมา แต่สกิลไม้ตายจากการแปลงร่างที่ทำให้ฮีโร่ตัวนี้โหดก็คงอยู่เหมือนเดิม
     6. Earthshaker การพลิกสถานการณ์ด้วยการผนึกเส้นทาง และสกิลโจมตีกลุ่ม ทำให้มันเป็นได้ทั้งตัว Damage และสนับสนุน
     7. Tidehunter ตัวเปิดที่ดี ต้องมีมากความอึด และสกิลหยุดกลุ่ม ทำให้ฮีโร่ตัวนี้เริ่มฉายแววดาวรุ่งตัวชนของทีมในการแข่งขันแล้ว

     การที่ฮีโร่ตัวไหนจะเก่งหรือได้รับความนิยม ส่วนหนึ่งมาจากโอกาสที่ได้ใช้งาน และการดึงความจุดเด่นของฮีโร่ตัวนั้นออกมาได้มากน้อยแค่ไหนด้วย นอกจากที่เรานำเสนอมานี้ยังมีฮีโร่อีกหลายตัวที่เริ่มได้รับความนิยมนำมาแข่งขันใน V6.57b และเริ่มมีคอมโบการเล่นใหม่ๆ โผล่ออกมาให้เห็นกันบ้างแล้ว หากมีเรื่องราวน่าสนใจเกี่ยวกับเทคนิคการเล่นใหม่นี้เราจะนำมารายงานให้ทราบต่อไป

ที่มา

Posted in ประวัติเกมส์ on ธันวาคม 23, 2010 by sogood2528
ประวัติและความเป็นมาของสุดยอดเกมส์ฮิต! Defense of the Ancient All Stars (dota)
หลาย ๆ คนคงได้เคยได้ยิน เกมส์ๆ หนึ่งที่สร้างปรากฏการณ์ ที่สั่นสะเทือนวงการเกมส์
นั่นก็คือเกมส์ Warcraft 3 ของค่าย Blizzard นั่นเองแหล่ะครับ
อ้ะๆ มาถึงตรงนี้หลายคนคงเดาออก ว่าผมหมายถึงอะไร แน่นอนครับถ้าตัวเกมส์ดังมากขนาดนั้นก็ว่าไปครับ
แต่… หลังๆ มาความนิยมในเกมส์เกิดจาก ฉากของเกมส์เพียงฉากเดียว!!!
ในทางภาษาเกมส์ เรียกสิ่งนี้ว่า Custom Map หรือแผนที่ที่เกิดจากการสร้างเอง
ครับ ผมกำลังพูดถึงแมป (ขอเรียกว่า แมปนะ (map) ก็หมายถึงแผนที่/ฉากนั่นแหละนะ) ยอดนิยมที่มีชื่อและประวัติศาสตร์อันยาวนานคือ
DotA Allstars หรือมีชื่อเต็มว่า Defense of the Ancient All Stars
Idea ของแมปนี้คือ การต่อสู้ของ 2 ฝั่งคือ Scourge และ Sentinel ซึ่งก็จะว่าคล้ายๆ กับ Super Robot War ซีรีย์อันโด่งดังจากญี่ปุ่นนั่นเอง
ที่ เอาตัวละครจากหลากหลายแห่งมายำรวมกัน พร้อมสร้างความสนุกแนวใหม่ขึ้นมา
เนื้อเรื่องคงไม่พูดถึงมากครับ จุดประสงค์ก็คือการถล่มฝ่ายตรงข้ามให้พังย่อยยับไปข้างหนึ่งด้วยการทำลายสิ่งก่อสร้างอันเป็นแกนหลักของแต่ละฝ่าย
ยกตัวอย่างน่ะครับ .. The Tower , Barrack พวกนี้น้ะครับ

ฝั่ง Scourge จะมี Frozen Throne เป็นสิ่งก่อสร้างหลัก
ฝั่ง Sentinel จะมี World Tree เป็นสิ่งก่อสร้างหลัก ถ้าฝ่ายไหนสิ่งก่อสร้างหลักพังก่อน ก็แพ้ครับ เกมส์มีรูปแบบง่ายๆ
โดยตัวเกมส์แล้วจะสามารถเล่นได้หลายคนผ่าน ระบบ lan หรือที่นิยมที่สุดตอนนี้ ก็คงเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกจาก Thaicybergames น่ะครับ และก็อื่น ๆ อีกก็มี เช่น Garena
ประวัติเกมส์นี้ มียาวนานครับ พัฒนากันโดยหลายทีม จนที่สุดได้มีแมปอันเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้แมปนี้ยืนยงมาจนถึงทุกวันนี้คือ
DotA ที่สร้างโดยนักสร้างระดับตำนาน (ของแมปนี้) ที่มีชื่อฉายาว่า Guisoo (ขอเช็คอีกทีนะไม่แน่ใจ)
จนเป็นที่โด่งดังและได้พัฒนาต่อเนื่องจนเป็น DotA ซีรีย์ Allstars ซึ่งเป็นการรวบรวมนักรบจาก Warcraft 3 ในทุกระดับชนชั้น มาต่อสู้เพื่อฝ่ายของตัวเอง
ล่าสุดในปัจจุบันนี้ ก็เป็น MAP dotaallstar 6.64c นั่นเองครับ
แม้ว่าคุณจะเล่นคอมไม่เป็น เล่น warcraft 3 แบบปกติก็ไม่เป็น หรือทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง แต่ถ้าเล่น dota เก่งคุณเป็นดาราแล้วล่ะครับ เชื่อฟลุ๊กดิ ! ( ฟลุ๊กก็แถบจะเป็นดาราแล้ว ไม่เชื่อก็ติดต่อ หลังไมค์ได้น้ะ )

ส่วนคำศัพท์ต่าง ๆ ในเกมส์น่ะครับที่มีรากศัพท์จากคำฝรั่ง และเป็นคำศัพท์ที่แทบจะเทียบได้กับการสรรเสริญกันอย่างยิ่ง! ฮ่าฮ่าฮ่า ๆ !
ก็คงจะไปคำอะไรไปไม่ได้ นอกจาก ..
นั่นคือคำ ว่า noob ออกเสียงว่า นู้บ จากฝรั่งเดิมที่เค้าใช้เรียกผู้เล่นมือใหม่ หรือ newbie นั่นเอง
แต่ในเมืองไทยแห่งนี้ คำว่า noob จะหมายถึงความแย่ และความเลวร้ายที่ผู้เล่นคนหนึ่งๆ จะพึงมี
แสดงถึงความห่วยอย่างที่สุด ไม่ได้ 5 555.
แล้วก็จะมีการพัฒนาศัพท์ไปเรื่อย ๆ เหมือนกับแมปเลยล่ะครับ และที่มีความหมายใกล้กันคือคำว่า kak หรือ กาก ก็ย่อมาจาก กากเดนนั่นเองครับ
แน่นอนครับ เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วสิ่งที่ตามมา เด็กติดเกมส์กันงอมแงมยังไม่เท่าไหร่ครับ เมื่อเทียบกับการติด dota
dota นั้นถือเป็นเกียรติและศักดิ์ศรีลูกผู้ชายอย่างหนึ่ง ดังที่กล่าวไป การมาลบหลู่กันนั่นถือว่า ต้องเอาถึงตาย! ( แต่ไม่ได้ตายจริงนะ เป็นสำนวนเฉย ๆ )
ถ้า ไม่ใช่เพื่อนกันมาพูดว่า คุณนู้บจัง แน่นอนครับ เกมส์จะเปลี่ยนเป็นมวยไปในทันที
ดังภาษิตไทยว่า ” เกมส์แพ้ คนไม่แพ้(โว้ย) “ หลายฝ่ายก็พยายามจะแก้ไขจุดนี้ ด้วยการพยายามให้แนวทางการเล่น และให้มีน้ำใจนักกีฬา อย่างเช่น พิมพ์ GG ในการเล่นจบในแต่ล่ะเกมส์ เพื่อให้เกียรติ คนที่แพ้และชนะ ก็ย่อมาจาก ” Goodgame ” นั่นเองครับ ( ไม่ใช่ ( GreanGame น่ะ (เกรียนเกมส์) เด่วจะยุ่ง อิอิ )
แต่ก็แน่นอนครับ มันก็วนกลับไปสู่ปัญหาเดิมๆ ที่หลายคนได้ยิน ถ้าคนเล่นทำตามมารยาทและกติกาที่วางไว้… ก็ไม่ใช่ไทยสิครับ 5 555 5. ^^’
และศัพท์ต่าง ๆ ก็ยังมีอีกหลายอย่างน่ะครับ
ก็อย่างเช่นตัวย่อ ต่าง ๆ เช่น …
tw = tower = ทาวน์เวอร์ หรือป้อมนั่นแหล่ะครับ
r = right = ทางขวา
l = left = ทางซ้าย
c = cen = ตรงกลาง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น